สำหรับสายแคมป์ปิ้งก็คงจะรู้กันดีว่า การ ทำความสะอาดเต็นท์ เป็นเรื่องยากพอสมควร และหลายคนก็เลือกที่จะเพิกเฉย อย่างดีที่สุดก็แค่เอาน้ำฉีด หรือเอาสก็อตไบร์ทและน้ำยาล้างจานล้างๆ ขัดๆ ส่วนที่มันสกปรกพอเป็นพิธี ผลที่ได้ก็คือ เจอทั้งกลิ่นเหม็นอับภายในเต็นท์ และยังพบปัญหาเต็นท์เสื่อมเร็วกว่าปกติ รวมถึงมีรอยด่างที่เห็นแล้วก็อดที่จะหงุดหงิดใจไม่ได้เลย ใครที่กำลังพบปัญหานี้อยู่ ทั้งมือใหม่และมืออาชีพที่ยังไม่รู้วิธีดูแลทำความสะอาดที่ดี สามารถนำวิธีจากในบทความนี้ไปใช้กันได้เลย

1. วิธีทำความสะอาดภายใน เต็นท์
ถ้าคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการไปแคมป์ปิ้งหรือกางเต็นท์บริเวณริมลำธาร หรือกลางป่ากลางเขา อย่างหนึ่งที่จะเห็นได้ชัดในที่พักของคุณจะเต็มไปด้วยเศษดิน เศษฝุ่น ยิ่งถ้าเจอพื้นทัอับชื้นก็มีโอกาสที่จะเจอราจุดสีดำๆ ขึ้นเต็มไปหมดอีกด้วย ส่วนภายในก็จะเริ่มมีกลิ่นอับชื้นบางๆ ปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ ทำความสะอาดเต็นท์ ด้วยการใช้ผ้าชุบน้ำอุ่น หรือน้ำอุณหภูมิห้องบิดให้หมาดที่สุด เช็ดไปตามซอกมุมต่างๆ ภายในเต็นท์ และสิ่งสกปรกต่างๆ ด้านนอก และถ้าน้ำเปล่าเอาไม่อยู่ ให้เอาสบู่มาละลายน้ำจางๆ และให้ใช้ผ้าชุบบิดหมาดเช็ดอีกที ไม่จำเป็นต้องใช้สารเคมีแรงๆ อย่างไฮเตอร์ หรือผงซักฟอกเข้มข้น เพราะอาจทำให้สารที่เคลือบเต็นท์อยู่ละลายไป และไม่จำเป็นต้องใช้แปรงแข็งๆ ขัด เมื่อกำจัดสิ่งสกปรกออกแล้ว ให้เอาเต็นท์ไปตากแดดในที่ที่แดดไม่จัด มีลมโกรกอยู่ตลอดเวลา คอยดูจนกว่าทุกอย่างจะแห้งสนิทจึงจะสามารถพับเก็บได้

2. ซิปเต็นท์ห้ามมองข้าม ก่อนสนิมจะขึ้นจนใช้งานไม่ได้
การกางเต็นท์ตามริมลำธาร หรือริมทะเลที่มีไอน้ำระเหยขึ้นมาอยู่ตลอดเวลา จะทำให้เกิดการอับชื้นภายในเต็นท์อย่างรุนแรง และอาจมีผลต่อซิปที่เราใช้รูดปิดในเวลานอนหลับอีกด้วย หากไม่ได้มีการทำความสะอาดซิปให้ดีพอ อาจจะเจอทั้งปัญหาสนิม หรือเกิดความฝืดเมื่อต้องการรูดซิปขึ้นลง จนทำให้ซิปแตกได้ ซึ่งการจะเปลี่ยนซิปใหม่ก็มีทั้งเรื่องของค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมอีกเยอะ ใครที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่ ให้ทำความสะอาดซิปด้วยการใช้สายยาง หรือสายฉีดน้ำพ้นไปตามซิปแรงๆ เพื่อชะล้างสิ่งสกปรกต่างๆ ออกไป และถ้ามีเวลา ก็ให้นำเทียนไข หรือขี้ผึ้งมาขัดถูบริเวณซิปเพื่อเพิ่มความไหลลื่นในการใช้งาน และยังช่วยป้องกันสิ่งสกปรกอีกด้วยการทำความสะอาดเต็นท์
3. วิธีซักเต็นท์ ในกรณีที่สกปรกมาก
ถ้าคุณไปเผชิญกับพายุฝน หรือสภาพที่แคมป์ปิ้งที่เต็มไปด้วยฝุ่นมากมาย ก็เป็นที่เข้าใจได้ว่าทำไมถึงต้องซักเต็นท์ และวิธีที่ดีที่สุดในการทำความสะอาดขั้นเด็ดขาด ก็คือการเอาสบู่เหลว สบู่ก้อน หรือแชมพูสระผมมาละลายน้ำให้เจือจางสุดๆ ก่อนจะซักด้วยมือ ห้ามใช้ผงซักฟอก และน้ำซักผ้าเด็ดขาด ไม่ว่าจะสกปรกแค่ไหนก็ตาม เพื่อป้องกันไม่ให้วัสดุที่ใช้ทำเต็นท์เสื่อมเร็วกว่าเวลาอันควรเนื่องจากสูญเสียสารที่เคลือบผิวไป แนะนำทริคเพิ่มเติมว่า ให้หาแป้งฝุ่นมาโรยตามซอกตามมุมภายในของเต็นท์ เพื่อลดกลิ่นอับหรือกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ขณะใช้งาน และอย่าลืมเอาไปตากแดด พึ่งลมให้แห้งสนิทจริงๆ ก่อนจะเก็บ มิเช่นนั้นคุณอาจจะเจอปัญหาเชื้อราหรือกลิ่นอับที่รุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม
4. วิธีเก็บ เต็นท์ เมื่อไม่ได้ใช้งานนานๆ
หากคุณไม่ได้ออกไปแคมป์ปิ้งเป็นเวลานาน และต้องเก็บเต็นท์เข้าที่ไว้ก่อน สถานที่ที่คุณควรจะเก็บก็คือบริเวณที่มีอากาศถ่ายเท มีลมพัดผ่านอยู่ตลอดเวลา และไม่ควรจะมีอากาศร้อนจนเกินไป นอกจากนี้การทำความสะอาดเต็นท์ ห้ามวางเต็นท์ไว้กับพื้นปูนโดยเด็ดขาด เพราะบริเวณใต้พื้นปูนมักจะมีความชื้นเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา และจะทำให้เกิดเชื้อราขึ้นบนเต็นท์ เมื่อไรก็ตามที่จะนำออกมาใช้ ก็เพียงแค่กางแล้วเอาไปตากแดดอ่อนๆ ในช่วงเช้าหรือช่วงเย็นให้แห้งสนิท เช็กกลิ่นอีกรอบก่อนจะพับเก็บเตรียมตัวไปเที่ยว

5. วิธีซ่อมแซมเต็นท์ที่ฉีกขาด
เมื่อใช้เต็นท์ไปสักระยะ ก็เป็นไปได้ที่จะพบปัญหาการฉีกขาด โดยเฉพาะหากเอาไปใช้ในพื้นที่สมบุกสมบัน หรือพื้นที่ที่มีพายุเข้าอย่างรุนแรง วิธีซ่อมแซมผนังเต็นท์ที่ฉีกขาดแบบง่ายๆ คือการใช้เทปผ้าแปะลงไปเลย ยิ่งแปะตอนที่รอยฉีกขาดเล็กเท่าไรก็ยิ่งดีเท่านั้น เพื่อที่จะได้ป้องกันไม่ให้รอยมีขนาดใหญ่ขึ้น ถ้าไม่แน่ใจว่าควรใช้ผ้าเทปแบบไหนดี ให้ไปหาอุปกรณ์ซ่อมแซมเต็นท์โดยตรง ตามร้านที่ขายอุปกรณ์แคมป์ปิ้งได้เลย รับรองว่ามีให้เลือกทุกแบบ และมีอุปกรณ์ให้จัดการสำหรับทุกปัญหาแน่นอน