แม้คนส่วนมากจะชื่นชอบการไปแคมป์ปิ้งในช่วงฤดูหนาว เพราะชื่อนชอบในสภาพอากาศที่เย็นกว่าปกติ แถมยังไม่ค่อยเจอปัญหาเรื่องยุงและทากมากวนใจเท่าไรนักหากต้องลุยป่าเข้าไปเพื่อหาที่กางเต็นท์นอน แต่ปัญหาหลักๆ ที่มักจะเจอก็คือ มันหนาวเกินไป หนาวจนแทบจะนอนไม่ได้ ถึงแม้จะเอาผ้าห่มผืนใหญ่ไปก็ยังไม่ได้รู้สึกว่าอุ่นขนาดนั้น และสุดท้ายก็นอนไม่หลับ ส่งผลให้เกิดอาการอ่อนล้า อ่อนเพลีย จนทำให้หมดสนุกไปได้อยู่ เราจึงขอแนะนำเทคนิคดีๆ ที่จะช่วยให้คุณไปแคมป์ปิ้งในช่วงหน้าหนาวได้อย่างสนุกและสบายใจมากขึ้น มาดูกันเลยว่าต้องเตรียมตัวอย่างไรดี?

1. ห้ามดื่มแอลกอฮอล์
คนส่วนมากมักเข้าใจว่า ถ้ารู้สึกหนาวและอยากให้ตัวอุ่น ก็ต้องกระดกเบียร์เข้าไปก่อนจะเข้าไปนอนในเต็นท์ และดูเหมือนว่าจะเข้าท่าเพราะหลังจากนั้นไม่นานหลายคนก็รู้สึกอุ่นขึ้นมาจริงๆ แต่ในทางกายภาพแล้วสิ่งนี้คือสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เพราะเมื่อเราดื่มแอลกอฮอล์เข้าไปแล้ว จะทำให้เกิดการสูบฉีดโลหิตเพื่อกระตุ้นให้เกิดการขับเหงื่อออกมามากขึ้น แต่หลังจากนั้นอุณหภูมิในร่างกายก็จะเย็นลงจากความร้อนที่สูญเสียไป หากดื่มในปริมาณเยอะๆ ก็อาจถึงขั้นสูญเสียความร้อนในร่างกายจนเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ หากต้องการดื่มจริงๆ ก็ควรดื่มในปริมาณที่น้อยมากเพื่อการสังสรรค์จะดีกว่า
2. รับประทานอาหารที่โปรตีนสูงๆ
เคยสังเกตมั้ยว่า คนที่มีน้ำหนักเยอะมักจะรู้สึกหนาวมากกว่าคนที่มีกล้ามเนื้อเยอะๆ เป็นเพราะว่ากล้ามเนื้อจะช่วยรักษาอุณหภูมิให้ร่างกายได้ดีกว่า ยิ่งถ้าได้กินอาหารที่มีโปรตีนสูง ก็จะยิ่งมีพลังงานที่ช่วยเพิ่มความอบอุ่นให้ร่างกายมากขึ้นด้วย ในช่วงหน้าหนาว หากเป็นไปได้ ควรกินเป็นสเต็กหมู ไก่ เนื้อ ปลา ดีกว่ากินมาม่า หรืออาหารแห้งใส่น้ำร้อน อย่างน้อยๆ การกินหมูกระทะหรือชาบูก็พอช่วยได้ และก่อนจะนอนควรดื่มน้ำอุ่นเกือบร้อนสักแก้ว ก็จะยิ่งช่วยให้นอนหลับสบายภายในเต็นท์มากขึ้นอีกด้วย
3. สวมถุงเท้าหนาๆ
คนทั่วไปมักจะละเลยการใส่ถุงเท้านอนในเต็นท์ช่วงที่อากาศหนาว เพราะให้ความสำคัญกับเสื้อกันหนาว กับกางเกงขายาวมากกว่า แต่รู้หรือไม่ว่า จริงๆ แล้วตัวช่วยที่จะทำให้เราอบอุ่นมากขึ้นภายในเต็นท์ก็คือถุงเท้านี่แหละ เพราะเท้า ถือเป็นอวัยวะสำคัญที่รวมเส้นประสาทไว้มากมาย เมื่อเราให้ความอบอุ่นบริเวณเท้า ก็จะทำให้ร่างกายอบอุ่นขึ้นได้ทั่วทั้งตัว ใครที่ยังไม่เคยลองวิธีนี้ แนะนำให้ไปหาถุงเท้าหนาๆ ติดไว้สักคู่หนึ่ง แล้วจะเข้าใจเลยว่า ความวิเศษของถุงเท้าในช่วงหน้าหนาว มันเป็นแบบนี้นี่เอง
4. ถุงนอนดีๆ ช่วยได้
ตามปกติการนอนเต็นท์ มักจะต้องมีถุงนอนไว้ใช้กันอยู่แล้ว แต่เนื่องจากถุงนอนสมัยนี้มีให้เลือกเยอะ และมีหลายราคามาก หลายคนอาจจะเลือกซื้อแบบที่ราคาไม่แพง ไม่ได้ทำจากวัสดุที่ดีเท่าที่ควร หากนอนในหน้าร้อนก็คงไม่รู้สึกอะไร แต่เมื่อไรที่หยิบมานอนในหน้าหนาวก็ดูเหมือนจะป้องกันอะไรไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นควรเลือกซื้อแบบที่มีคุณภาพดีสักนิด และเลือกให้เหมาะสมกับสภาพอากาศที่จะไป ตามปกติแล้วถุงนอนเหล่านี้มักจะมีอุณหภูมิบอกไว้อยู่แล้วว่ากันหนาวได้ประมาณเท่าไร ซื้อแพงหน่อยแต่ใช้ได้ทุกสถานการณ์ ยังไงก็คุ้มกว่าที่ซื้อถูกและต้องซื้อใหม่ไปเรื่อยๆ อยู่แล้ว

5. ใช้น้ำร้อนเป็นตัวช่วย
ปกติการไปแคมป์ปิ้งหรือนอนเต็นท์ มักจะมีการต้มน้ำร้อนอยู่แล้ว โดยเฉพาะคนที่ประกอบอาหารกินเอง หรือคนที่ชื่นชอบการดื่มกาแฟท่ามกลางธรรมชาติ แต่ถ้าหากเป็นการกางเต็นท์นอนอยู่ในลานกางเต็นท์ของที่พักต่างๆ ก็สามารถขอน้ำร้อนได้เลย เพียงแค่เอาน้ำร้อนใส่ขวด หรือใส่กระบอกสแตนเลสคู่ใจของคุณ แล้วเอามาแนบไว้ตามมือและเท้า หากร้อนเกินไปก็ให้เอาผ้าพันไว้สักหน่อยจะช่วยได้เยอะ สำหรับผู้หญิงสามารถใช้กระเป๋าน้ำร้อนแทนได้ ไม่ว่าจะหนาวแค่ไหน แต่หากมีสิ่งนี้ก็เอาอยู่แน่นอน
6. อย่าดื่มน้ำเยอะ
ควรจิบไปเรื่อยๆ เพื่อรักษาระดับน้ำในร่างกายไว้ดีกว่า ซึ่งในกรณีนี้ก็รวมถึงการกินน้ำซุปจากบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป หรือน้ำซุปจากหมูกระทะด้วย อย่าลืมว่าการนอนเต็นท์ส่วนใหญ่ไม่ได้มีห้องน้ำในตัว ต้องเดินไปเข้าไกลๆ กันทั้งนั้น และในช่วงกลางคืนเป็นเวลาที่อากาศจะหนาวที่สุดจนถึงเรียกได้ว่าหนาวจัดๆ ใครได้ออกมาเข้าห้องน้ำแล้วเจออากาศแบบนี้ ก็เป็นไปได้ที่จะหนาวมากจนตัวแข็ง ตาแข็ง นอนไม่หลับไปทั้งคืน

7. เปลี่ยนชุดก่อนเข้านอน
ปกติของการกางเต็นท์นอนก็คือ ต้องมีการก่อกองไฟเพื่อเพิ่มความอบอุ่น และทุกคนก็จะมานั่งผิงไฟพูดคุย หรือทำกิจกรรมต่างๆ กันเป็นเวลาหลายชั่ยโมง แล้วเมื่อถึงเวลาแยกย้าย ทุกคนก็จะเข้านอนทั้งชุดนั้นๆ เลย แต่จริงๆ แล้วหากเป็นไปได้ควรเปลี่ยนชุดมากกว่า เพราะการนั่งอยู่ข้างนอกตอนกลางคืน อาจมีน้ำค้างทำให้เสื้อผ้าชื้น รวมถึงกลิ่นฟืนไฟที่ทำให้รู้สึกเหนียวและไม่สบายตัว จนส่งผลให้นอนไม่หลับได้เช่นกัน