ทุกวันนี้การไปกางเต็นท์ หรือการไปแคมป์ปิ้ง กลายเป็นกิจกรรมหลักของวัยรุ่นและวัยทำงานไปแล้ว เพราะเหมือนได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ซึ่งก็ถือว่าเป็นความแปลกใหม่ที่แตกต่างไปจากชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก หลายคนอาจจะเริ่มต้นไปกางเต็นท์จามจุดกางเต็นท์ของโรงแรม หรือพื้นที่เอกชนต่างๆ แต่เมื่อเริ่มไปบ่อยๆ หลายคนก็อาจจะอยากลองไปนอนกลางป่า หรืออยากไปนอนอยู่บนดอยสูงๆ บ้าง เราจึงได้รวบรวม อุปกรณ์ช่วยชีวิต ที่จำเป็นมากๆ สำหรับการไปผจญภัยในระดับที่แอดวานซ์มากขึ้น มาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง คุณมีครบแล้วหรือยัง

1. ยาสามัญประจำบ้าน
ไม่มีอุปกรณ์ไหนที่จะจำเป็นสำหรับอุปกรณ์ช่วยชีวิต ได้มากไปกว่ายาสามัญและไม่สามัญแล้ว สิ่งที่คุณจำเป็นจะต้องมีและต้องพกพามันไปทุกครั้ง ได้แก่ ยาแก้ปวดต่างๆ ยาหม่อง หรือยาที่ช่วยบรรเทาอาการคันจากแมลงสัตว์กัดต่อย ยาแก้ท้องเสียเผื่อไว้ในกรณีที่อาหารการกินไม่สะอาด ยาแก้แพ้ในกรณีที่คุณมีอาการแพ้แมลงหรือแพ้อากาศ ชุดอุปกรณ์ทำแผลที่อาจจะเกิดขึ้นจากการโดนใบไม้ใบหญ้าบาด หรือเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันขึ้น รวมทั้งยากันยุงที่มีให้เลือกทั้งแบบครีมและแบบสเปรย์ ใครที่รู้ตัวว่ามีโรคประจำตัวก็ควรพกยาเหล่านี้ติดขึ้นไปด้วย แม้จะหายหรือไม่ได้มีอาการกำเริบนานแล้ว แต่ยังไงก็ควรปลอดภัยไว้ก่อน หากเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาจะได้มีคนช่วยคุณได้ แนะนำให้หากระเป๋าเล็กๆ ที่กันน้ำได้ดีมาเป็นที่เก็บยา เพราะถ้าหากยาชื้นหรือเปียก อาจทำให้ยาเสื่อมสภาพเร็วกว่ากำหนด
2. เชือกเดินป่า
ขนาดตอนที่เรียนลูกเสือ เชือกยังเป็นอุปกรณ์หนึ่งที่มีความสำคัญขนาดที่ต้องร้อยไว้กับเข็มขัดเลย เพราะฉะนั้นหากคุณไปเดินป่า หรือไปแคมป์ปิ้งในป่า อุปกรณ์ชิ้นนี้ก็ต้องเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้อย่างแน่นอน แนะนำว่าเชือกที่ต้องเอาไป ควรจะเป็นเชือกเดินป่า หรือเชือกพาราคอร์ดที่มีความเหนียวแน่น แต่น้ำหนักเบา ตัดไม่ขาดง่ายๆ เพราะเชือกนี้อาจจะเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถเอาไปใช้ดึงเต็นท์ให้ตึงมากขึ้น อาจจะใช้ผูกกับต้นไม้เพื่อเป็นราวตากผ้า รวมถึงใช้เป็นอุปกรณ์กู้ชีพในกรณีที่คุณจำเป็นต้องเดินลุยลำธาร หรือต้องเดินในเส้นทางที่มีความอันตราย

3. มีดพก
อุปกรณ์ชิ้นนี้ เป็นอีกสิ่งที่ไม่ควรพลาด โดยที่ไม่จำเป็นต้องคิดเลยว่าเยอะหรือเวอร์เกินไปหรือเปล่า อย่าลืมว่าคุณตั้งใจไปแคมป์ปิ้งกลางป่า หรือบนดอย โอกาสที่คุณจะเจอสิ่งไม่คาดฝัน เช่น สัตว์บางชนิด สามารถเกิดขึ้นได้หมด มีดพกจะช่วยเป็นอุปกรณ์สำหรับป้องกันตัว และยังช่วยในการเปิดกระป๋องอาหารที่คุณอาจจะเผลอทำห่วงสำหรับดึงหลุดแบบไม่ตั้งใจ หรืออย่างน้อยก็เอาไว้ใช้ตัดนู่นตัดนี่ได้ ใครที่ลังเลใจอยู่ว่าจะซื้อดีมั้ย ซื้อได้เลย คุณได้ใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์ชิ้นนี้แน่ๆ

4. ไฟฉาย
ไม่จำเป็นจะต้องเป็นไฟฉายอย่างเดียวเท่านั้น แต่คุณควรมีอุปกรณ์ที่ให้แสงสว่างทุกอย่างเท่าที่จะเป็นไปได้ ไม่ว่าจะเป็นไฟฉาย ไฟแช็ก หรือแม้กระทั่งตะเกียง เพราะการอยู่ในป่าหรืออยู่บนดอย เมื่อไรก็ตามที่ไม่มีแสงอาทิตย์แล้ว คุณก็แทบจะมองไม่เห็นอะไรเลย ตะเกียงกับไฟฉายจะช่วยนำทางให้คุณสามารถไปหาห้องน้ำ หรือมองหาสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ภายในเต็นท์ได้ ส่วนไฟแช็กจะช่วยให้คุณสามารถจุดไฟเพื่อประกอบอาหารง่ายๆ ให้ความอบอุ่น หรือช่วยกำจัดทากที่เกาะตามตัวได้ เพียงแค่เอาไฟแช็กลนไปบนตัวทากเพื่อให้มันปล่อย อาจจะดูโหดร้าย แต่นี่ก็เป็นวิธีที่ดีกว่าการดึงออกทันทีทันใด อุปกรณ์ช่วยชีวิต

5. กล้องส่องทางไกล
หลายคนอาจรู้สึกตลกว่า จะมีอุปกรณ์นี้ไว้ทำไม แต่ถ้าคุณไปนอนกลางป่า แล้วได้ยินเสียงสัตว์ที่ไม่น่าไว้ใจ กล้องส่องทางไกลจะช่วยคุณได้มากทั้งในเรื่องของการประเมินสถานการณ์ หากส่องไปแล้วเจอสัตว์ที่อาจมาทำร้ายคุณได้ หรือช่วยส่องเพื่อสำรวจเส้นทางก่อนที่จะวางแผนกางเต็นท์ที่จุดใดจุดหนึ่ง

6. เข็มทิศ หรือแผนที่
ถึงจะดูโบราณไปสักหน่อย จนหลายคนอาจไม่ใช้กันแล้ว แต่เข็มทิศก็ยังเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็นอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อคุณเดินป่าเข้าไปกางเต็นท์แบบไม่มีเจ้าหน้าที่นำทาง การที่คุณรู้ทิศ และรู้ว่าตัวอยู่ตรงไหนโดยดูจากแผนที่ ก็จะช่วยให้คุณเดินกลับออกมาได้อย่างปลอดภัย ทุกวันนี้มีคนหลงทิศและต้องเสียเวลาเดินวนอยู่ในป่าหลายเคส คุณก็คงไม่อยากเป็นหนึ่งในนั้นแน่ๆ

7. เสื้อกันฝน
เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิตอย่างแท้จริง หลายคนมักจะมองข้ามสิ่งนี้ โดยเฉพาะการเดินทางไปแคมป์ปิ้งในช่วงหน้าร้อนหรือหน้าหนาว แต่ถ้าไปแล้วเจอพายุ หรือเจอฝนตั้งเค้าขึ้นมา ก็เป็นอันมั่นใจได้เลยว่าต้องเปียกแบบหนีไปไหนไม่ได้ และถ้าหากโชคไม่ดีก็อาจถึงขั้นเจ็บป่วยกลับมาด้วย ร้ายแรงสุดก็อาจถึงขั้นเป็นปอดบวม อุปกรณ์ช่วยชีวิต เสื้อกันฝนตัวนึงราคาไม่แพงมาก และใช้พื้นที่จัดเก็บไม่มากนัก แถมยังมีน้ำหนักเบา การมีติดไว้ยังไงก็อุ่นใจมากกว่าแน่นอน
