ต้องบอกเลยว่าตอนนี้การไปแคมป์ปิ้งกำลังเป็นที่นิยมมาก ๆ ในตอนนี้ เพราะหลาย ๆ คนชื่นชอบการไปเที่ยวแคมป์ปิ้งกางเต็นท์ นอกจากจะจะสนุกและท้าทายแล้วยังเป็นการให้เราได้สัมผัสกับบรรยากาศในการเที่ยวแบบใหม่ ๆ ที่อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ได้ผ่อนคลายกันแบบเต็มที่ นอกจากนี้การไปเที่ยวแคมป์ปิ้งที่นอกจากความสนุกสนานความท้าทายแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อทั้งร่างกายและจิตใจ ช่วยเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ และลดความเครียดได้เป็นอย่างดี ช่วยเสริมสร้างจินตนาการด้วย แต่แน่นอนว่าสำหรับมือใหม่แคมป์ปิ้งหลาย ๆ คนคงประสบกับปัญหาในการไปตั้งแคมป์พักแรมกลางป่า แล้วตัดสินใจไม่ถูกว่าจะต้อง เลือก เต้นท์ ยังไงดี ที่จะเหมาะกับแต่ละที่ที่จะไป ? และแบบไหนพกพาสะดวก ง่ายต่อการเดินทางมากที่สุด ? สำหรับวันนี้เราเลยมีวิธีการเลือกเต็นท์มาฝากกัน เลือก เต้นท์ ยังไงดี ให้เหมาะกับการใช้งานและไลฟ์สไตล์ เพื่อให้ทุกคนสามารถตัดสินใจและเลือกซื้อเต็นท์ที่ใช่และเหมาะกับตัวเองมากที่สุด สิ่งที่เราจะนำเสนออาจจะทำให้หลาย ๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น มีแบบไหนบ้าง และมีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง อย่ารอช้า เราไปดูกันพร้อม ๆ กันเลย

1.เต็นท์โดม
สำหรับเต็นท์แบบแรกที่เราจะมาแนะนำกัน จะเรียกกันว่า เต็นท์โดม บอกเลยว่าไม่ว่าจะเป็นนักเดินทางสายไหนก็ต้องมีติดบ้านไว้สักอัน เพราะมีข้อดีเยอะมาก เต็นท์โดมจะมีน้ำหนักเบา และกางง่ายไม่ต้องใช้สมอบก ในส่วนของตัวพื้นเป็นรูปสี่เหลี่ยมมีพื้นที่กว้างนอนได้หลายคนมีที่ให้วางของด้วย แถมข้างบนยังมีช่องระบายอากาศ บางรุ่นมาพร้อมกับฟลายชีทและกราวนด์ชีทสำหรับกันน้ำค้าง และปูเป็นพื้นที่ใช้สอยด้านหน้าได้ด้วย ครบครัน ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับสายแคมป์ปิ้งมือใหม่
ข้อดี : น้ำหนักเบา, ไม่ต้องมีสมอบก, พื้นที่กว้าง และ ราคาถูก
ข้อเสีย : มีขนาดให้เลือกน้อย และ พื้นที่ด้านบนน้อย
2.เต็นท์ป๊อปอัป
และเต็นท์แบบที่ 2 ก็คือ เต็นท์ป๊อปอัป เป็นเต็นท์สำหรับนักท่องเที่ยวสายชิลที่ไม่อยากเหนื่อยกับการกางเต็นท์ต่อเสาขึงผ้าปักสมอบก เต็นท์มาในรูปแบบกระเป๋าเพียงแค่รูดซิปดึงออกมาจากกระเป๋าเต็นท์ก็จะกางให้เราโดยอัตโนมัติ ส่วนเวลาพับเก็บก็ง่าย กระเป๋าของเต็นท์ป๊อปอัปเล็กมากไม่กินที่กระเป๋าเราอีกด้วย
ข้อดี : กางง่าย, แพ็คแล้วเล็กมาก และ ไม่กินที่กระเป๋า
ข้อเสีย : ไม่แข็งแรง และไม่เหมาะกับการตั้งแคมป์นาน ๆ
3.เต็นท์สูบลม
และเต็นท์แบบที่ 3 เราจะเรียกกันว่า เต็นท์สูบลม เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะเคยเห็นกันบ่อย สำหรับเต็นท์สูบลมในการใช้งานเราแค่สูบลมเข้าไปให้เต็นท์พองตัวขึ้นก็เป็นอันสำเร็จแต่สะดวกขนาดนี้ก็มาพร้อมข้อเสียที่หลาย ๆ คนอาจส่ายหน้านั่นก็คือเต็นท์สูบลมมีน้ำหนักมากและต้องพกที่สูบลมไปด้วยคิดว่าน่าจะเหมาะกับนักท่องเที่ยวที่มีรถหรือมีลูกหาบ
ข้อดี : กางง่ายไม่ต้องใช้เสา
ข้อเสีย : มีน้ำหนักเยอะ, มีแต่ขนาดเล็ก และ ต้องมีที่สูบลม

4.เต็นท์อุโมงค์
และเต็นท์แบบที่ 4 ก็คือ เต็นท์อุโมงค์ เป็นอีกเต็นท์ที่น่าสนใจเลย เพราะเหมาะกับการไปหลาย ๆ คน จะได้ไม่ต้องพกเต็นท์ไปเยอะ เพราะเต็นท์ลักษณะนี้จะมีพื้นที่ใช้สอยเยอะนอนกับครอบครัวหรือเพื่อน ๆ ก็ไม่เบียดกันนอนสบายไม่อึดอัด มีพื้นที่สำหรับวางสัมภาระได้เยอะ แต่การกางเต็นท์ก็ไม่ได้ง่ายเหมือนเต็นท์ทั่วไปเพราะต้องใช้ 2 – 3 คนช่วยกันกาง
ข้อดี : น้ำหนักเบา และ มีพื้นที่ใช้สอยเยอะ
ข้อเสีย : กางยากต้องใช้หลายคนกางไม่ทนกับสภาพอากาศที่รุนแรง
5.เต็นท์แบบเคบิน
และเต็นท์แบบที่ 5 ก็คือ เต็นท์แบบเคบิน หลาย ๆ คนอาจจะไม่เคยได้ยิน แต่เต็นท์แบบนี้เหมาะมากสำหรับไปเที่ยวเป็นแก๊งหรือเป็นครอบครัวเพราะมีขนาดใหญ่แข็งแรงกันแดดกันฝนได้กว้างมาก และยิ่งเป็นขนาดใหญ่มาก ๆ จะแบ่งเป็นห้องๆเหมือนบ้านเลย แต่ด้วยความกว้างใหญ่นี้ ทำให้เต็นท์แบบเคบินมีน้ำหนักมากเลยเหมาะกับคนที่มีรถขับไปเที่ยวเท่านั้น
ข้อดี : ใหญ่, แข็งแรง และ มีหลายขนาด
ข้อเสีย : มีน้ำหนักมาก, ใช้หลายคนในการกางเต็นท์ และ ใช้พื้นที่เยอะ
เต็นท์แบบกึ่งถุงนอน
และสุดท้าย เราจะเรียกว่าเต็นท์แบบกึ่งถุงนอน เหมาะสำหรับใครที่เป็นสายชิค ชอบเดินทางคนเดียว เที่ยวคนเดียวแบบคลู ๆ ควรเลือกใช้ เพราะเป็นเต็นท์สำหรับนอนคนเดียวลักษณะคล้ายถุงนอนแต่มีพื้นที่รอบหัวให้ขยับไปมา กันยุงกันแมลงได้เหมาะกับการนอนดูดาวแบบสุด ๆ
ข้อดี : พกพาสะดวกเป็นส่วนตัว
ข้อเสีย : นั่งไม่ได้เพราะเป็นกึ่งถุงนอน
